เมนู

อามัณฑผลทายกเถราปทานที่ 9 (529)



ว่าด้วยผลแห่งการถวายแฟง



[119] พระพิชิตมารพระนามว่าปทุมุตตระ
ผู้ทรงรู้จบธรรมทั้งปวง เป็นนายกของโลก ออก
จากสมาธิแล้ว เสด็จจงกรมอยู่
ครั้งนั้น เราเอาผลไม้ใส่หาบ หาบมา ได้
พบพระพุทธเจ้ามหามุนีผู้ปราศจากกิเลสธุลี กำลัง
เสด็จจงกรมอยู่
เรามีจิตเลื่อมใสมีใจโสมนัส ประนมกรอัญชลี
เหนือเศียรเกล้า ถวายบังคมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วถวายผลแฟง
ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้ถวายผลไม้
ใด ในกาลนั้น ด้วยการถวายผลไม้นั้น เราไม่รู้จัก
ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งผลแฟง
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว. . .คำสอน
ของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระอามัณฑผลทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.

จบอามัณฑผลทายกเถราปทาน

สุคันธเถราปทานที่ 10 (530)



ว่าด้วยผลแห่งการสดุดีพระรัตนตรัย



[120] พระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่ง
พราหมณ์ ทรงพระยศใหญ่มีพระนามว่ากัสสปะ
ประเสริฐกว่านักปราชญ์ทั้งหลายเสด็จอุบัติขึ้นแล้ว
ในภัทรกัปนี้
พระองค์ทรงสมบูรณ์ด้วยอนุพยัญชนะมี
พระลักษณะอันประเสริฐ 32 ประการ อันรัศมี
วาหนึ่งแวดล้อม มีข่ายรัศมีบังเกิดปรากฏ ก่อให้
เกิดความยินดีเหมือนพระจันทร์ ส่องแสงสว่าง
เหมือนพระอาทิตย์ ทรงยังหมู่สัตว์ให้เยือกเย็น
เหมือนเมฆฝน เป็นบ่อเกิดแห่งคุณเหมือนสาคร
พระองค์ประหนึ่งว่า แผ่นดินโดยศีล
ประหนึ่งว่า ภูเขาหิมวันต์โดยสมาธิ ประหนึ่งว่า
อากาศโดยปัญญา เป็นผู้ไม่เกาะเกี่ยวเสมือนลม
ฉะนั้น
พระองค์ไม่ทรงบกพร่องเหมือนวิหาร
ทรงแกล้วกล้าในบริษัท ทรงประกาศสัจธรรม
ช่วยมหาชนให้รอดพ้น
ครั้งนั้น เราเป็นเศรษฐีบุตรผู้มียศใหญ่
ในพระนครพาราณสี มีทรัพย์และข้าวเปลือก
มากมาย